YLG เปิดตัวแอปฯ YLG Gold Investment แอปฯ แรกในประเทศไทยที่เทรดทองได้ถึง 5 สกุลเงินอุดช่องว่างส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนผันผวน เพิ่มโอกาสและช่องทางลงทุน

YLG เปิดตัวแอปฯ YLG Gold Investment แอปฯ แรกในประเทศไทยที่เทรดทองได้ถึง 5 สกุลเงินอุดช่องว่างส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนผันผวน เพิ่มโอกาสและช่องทางลงทุน

วายแอลจีเปิดตัวแอปพลิเคชั่น YLG Gold Investment ซื้อขายทองคำแท่งแอปพลิเคชันแรกในไทย ที่เทรดทองคำผ่าน 5 สกุลเงินหลัก ทั้ง ดอลลาร์สหรัฐ  หยวน ดอลลาร์สิงคโปร์ ยูโร และเงินบาท เพิ่มช่องทางการทำกำไร พร้อมลดตวามเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน เพื่อเพิ่มโอกาสให้นักลงทุนสามารถเลือกเทรดทองได้มากกว่าหนึ่งสกุลเงินหลังพบสัญญาณปีที่แล้วราคาทองคำในประเทศราคาพุ่งสวนทางราคาทองคำในตลาดตามสถานการณ์ค่าเงินบาทที่อ่อนค่า เผยข้อดีแอปฯช่วยยกระดับการลงทุนในทองคำด้วยการเปิดซื้อขาย 24 ชั่วโมง วันจันทร์-ศุกร์ พร้อมเปิดซื้อ-ขายไม่เว้นแม้วันเสาร์-อาทิตย์ (เวลา9.00-17.00 น.) มองทิศทางค่าเงินบาทปี 2565 ยังผันผวน เหตุเศรษฐกิจโลกยังมีความเสี่ยงนักลงทุนมีโอกาสเทขายสินทรัพย์เสี่ยงจากตลาดประเทศเกิดใหม่ สามารถดาวน์โหลด แอปพลิเคชั่นYLG Gold Investment เทรดทองได้ สกุลเงิน ได้แล้ววันนี้ทั้ง iOS และ Android ส่วนการเคลื่อนไหวราคาทองคำมองกรอบแนวต้าน 1,897-1,915 แนวรับ 1,873-1,854 ราคาทองคำในประเทศ 30,250-31,250 บาท

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด(YLG) เปิดเผยว่าวายแอลจีได้เปิดตัวแพลตฟอร์มลงทุนทองคำผ่านแอปพลิเคชั่น YLG Gold Investment ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่นแรกของไทยที่จะยกระดับการลงทุนในทองคำที่สามารถซื้อขายทองคำได้ถึง 5 สกุลเงินหลัก ประกอบด้วย ดอลลาร์สหรัฐ หยวน ดอลลาร์สิงคโปร์ ยูโร และเงินบาท โดยวายแอลจีได้แนวคิดมาจาก ปีที่ผ่านมาราคาทองคำในประเทศที่เคลื่อนไหวเพิ่มขึ้น 6% ขณะที่ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวลดลงเกือบ 4% เนื่องจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ดังนั้นหากนักลงทุนสามารถซื้อขายได้ในหลากหลายสกุลเงินจะช่วยเพิ่มช่องทางทำกำไรให้กับนักลงทุนได้มากขึ้น

อีกทั้งแอปพลิเคชั่น YLG Gold Investment ยังมีความโดดเด่นด้านความสะดวกสบายโดยนักลงทุนสามารถตั้งราคาซื้อขายได้ล่วงหน้า ตลอด 24 ชั่วโมง เริ่มต้นลงทุนเพียง 1 ออนซ์ หรือ 31.104 กรัม(ประมาณ 2 บาททอง หรือประมาณ 60,000บาท) สามารถเข้าถึงได้สะดวกผ่านทุกช่องทางออนไลน์ ทั้งทางเว็บไซต์เเละแอปพลิเคชั่น ทั้ง Android / IOS นอกจากนี้แอปพลิเคชั่น YLG Gold Investment ยังเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่ง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจแก่นักลงทุน โดยนักลงทุนสามารถตรวจสอบการทำธุรกรรมย้อนหลังได้ด้วยตนเอง ทั้งธุรกรรมการฝาก-ถอนเงิน ฝาก-ถอนทอง ซื้อ- ขาย  และการรับ-ส่งทองคำ เพิ่ม ความปลอดภัย ในการจัดส่งสินค้า ผ่านระบบการยืนยันตัวตนผ่านการใช้รหัส OTP รัดกุม ปลอดภัย สะดวกรวดเร็ว มีการแจ้งเตือนการทำผ่านโทรศัพท์มือถือทุกครั้งที่ทำธุรกรรม เพิ่มความมั่นใจด้านความปลอดภัยให้กับนักลงทุน และสำคัญที่สุด สามารถกำหนดวันเวลาในการรับส่งทองได้ด้วยตนเอง

สำหรับการเปิดบริการแอปพลิเคชันนี้สอดคล้องกับปัจจัยทองคำในประเทศที่แม้จะเคลื่อนไหวตามราคาในตลาดโลกแต่ก็ต้องขึ้นกับการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท ดังนั้นการเปิดให้ลงทุนได้ในหลากหลายสกุลเงินจึงทำให้นักลงทุนลดความเสี่ยงด้านความผันผวนของค่าเงิน โดยเฉพาะในปี 2565 ที่ค่าเงินบาทยังมีความผันผัวน และมีความเสี่ยง เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบระหว่างรัสเซีย – ยูเครน ดังนั้นหากนักลงทุนทั่วโลกทำการเทรดขายสินทรัพย์เสี่ยง และอาจจะเข้ามาลงทุนสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งทองคำก็เป็นทางเลือกหนึ่งในนั้น ส่วนราคาทองคำในประเทศ หากลงทุนสกุลเงินบาทเพียงอย่างเดียวก็อาจจะได้รับความเสี่ยงจากค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลง ซึ่งความผันผวนของค่าเงินนั้นก็จะผกผันความเสี่ยงไปตามค่าเงินบาทเพียงเท่านั้น แต่หากนักลงทุนสามารถกระจายความเสี่ยงเพิ่ม ด้วยการลงทุนทองคำจากหลายสกุลเงิน ก็จะทำให้อุดช่องว่างอัตราการแลกเปลี่ยนค่าเงินที่ผันผวนและเพิ่มโอกาสการทำกำไรได้

ตามสถิติของ Gold Price and annual return in key currencies (%Chg) ในช่วงปี 2012-2021 พบว่ามีถึง 4 ปี จาก 10 ปี ที่ราคาทองคำสกุลเงินบาทต่อ 1 ทรอยออนซ์ ให้ผลตอบแทนที่แย่กว่า (Worst Performance : W) เมื่อเทียบกับราคาทองคำที่เป็นสกุลอื่นๆ ทั้ง สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ, สกุลเงินดอลลาร์สิงคโปร์, สกุลเงินหยวน และสกุลเงินยูโร ดังนั้น ความผันผวนในเรื่องของสกุลเงิน จึงเป็นอีกปัจจัยหนึ่ง ที่นักลงทุนสามารถใช้มาเป็นเกณฑ์ในการการกระจายความเสี่ยงด้านการลงทุนในทองคำได้

ส่วนแนวโน้มการเคลื่อนไหวของทองคำในช่วงนี้ ราคาอยู่ในช่วงของการปรับฐานลง หลังจากทดสอบกรอบบนใกล้โซนแนวต้านจิตวิทยาบริเวณ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในช่วงที่ผ่านมา แต่ไม่สามารถทะลุผ่านไปได้  ทำให้นักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังในการถือครองสถานะทองคำ  จึงแนะนำให้นักลงทุนเน้นลงในกำไรระยะสั้นขึ้นขาย-ลงซื้อ  โดยมีกรอบแนวต้านแรกที่ 1,897-1,915 ดอลลาร์ต่อออนซ์  โดยมีจุดชะลอขายหากราคาผ่าน 1,915 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับจุดซื้อควรรอการตั้งฐานของราคาบริเวณแนวรับที่ 1,873-1,854 ดอลลาร์ต่อออนซ์  สำหรับราคาทองคำในประเทศมองกรอบการเคลื่อนไหวที่ 30,250-31,250 บาทต่อบาททองค

ข่าวเกี่ยวข้อง